จากพรานมือใหม่ สู่โชคใหญ่ในฝันของ “ผีโขมด”
คืนวันหนึ่งกลางฤดูฝน แถวป่าชายแดนไทย–พม่าเงียบสงัด มีเพียงเสียงจักจั่นและสายลมที่พัดเอื่อย ๆ
“ผมกับไอ้คิมตั้งใจเข้าไปดักหมูป่าแถวชายดงบ้านห้วยพวงครับ”
เสียงของ “บอล” หนุ่มวัย 32 ปี เล่าอย่างช้า ๆ พร้อมหัวเราะแห้ง ๆ เหมือนยังกลัวอยู่ในใจ
“เราขึ้นห้างตอนเย็น ข้าวปลาเตรียมครบ เหล้าไม่แตะด้วย เพราะตั้งใจทำของกินให้แม่”
ตอนนั้นเขาไม่รู้เลยว่าการเข้าไปในป่าครั้งนั้น จะเปลี่ยนชีวิตทั้งคู่ไปตลอดกาล
ดวงไฟในความมืด กับ “เสียงที่ไม่มีใครกล้าเอ่ย”
“ตอนมันจะค่ำ ฟ้ามืดเร็วมาก ผมนั่งอยู่บนห้างกับไอ้คิม ข้างล่างมีแต่หมอกกับกลิ่นดินเปียก ๆ”
เขาเล่าต่อด้วยเสียงเบา “อยู่ ๆ ผมเห็นไฟสีส้มจาง ๆ ลอยอยู่ห่าง ๆ ราว 30 เมตร มันไม่ใช่ไฟฉายแน่ เพราะมันนิ่ง แล้วค่อย ๆ เคลื่อนช้า ๆ”
บอลหันไปถามเพื่อนว่าเห็นไหม — คิมพยักหน้าแต่ไม่พูดอะไร
ทั้งคู่ตัวสั่น นั่งนิ่งจนไฟนั้นลอยผ่านหน้าไปอย่างช้า ๆ
“มันไม่ใช่ลูกไฟแบบที่เคยเห็นครับ มันเงียบ ไม่มีเสียงเลย ขนแขนลุกหมด เหมือนมีใครมองอยู่”
พอไฟดับหายไป ความเงียบเข้าครอบงำอีกครั้ง มีเพียงเสียงหัวใจที่เต้นแรงในความมืด
“ตอนนั้นกล้าขยับไม่ได้จริง ๆ ข้างล่างเหมือนมีอะไรเดินวนรอบห้าง เสียงเบา ๆ เหมือนคนลากเท้า”
ผีโขมดให้โชค กลับถึงบ้านแต่ไม่เหมือนเดิม
รุ่งเช้า ทั้งคู่รีบเก็บของออกจากป่าแทบไม่เหลียวหลัง
“พอถึงบ้านเท่านั้นแหละ ผมไข้ขึ้นทันที ตัวร้อนจัดเหมือนถูกดูดพลังไปทั้งคืน”
แม่ของเขาเอายามาให้กิน แต่ไม่ดีขึ้นในวันเดียว
ตกดึกคืนต่อมา บอลเล่าว่า เขาฝันเห็นชายร่างสูงในชุดพรานเก่า เสื้อขาดรุ่ย มีไฟล้อมตัวเป็นวง
“เขามายืนข้างเตียงแล้วพูดว่า ‘ของข้าอยู่ตรงนั้น อย่ากลับไปอีก’ เสียงแหบมากแต่ฟังรู้เรื่อง”
พอชายคนนั้นจะเดินจากไป เขาหันกลับมามอง แล้วพูดเพียงคำว่า “109…จำไว้ดี ๆ”
ตอนนั้นบอลสะดุ้งตื่น เหงื่อท่วมตัวเหมือนเพิ่งวิ่งหนีอะไรมา
“ผมจำเลขได้แม่นเลยครับ ทั้ง ๆ ที่ในฝันมันเหมือนควัน แต่เลขมันชัดขึ้นมาเองต่อหน้า”
ไม่รู้บังเอิญหรือ “ผีโขมดตั้งใจบอก”
เช้าวันต่อมา บอลโทรหาไอ้คิม
“มึงฝันแบบกูไหม” — อีกฝ่ายเงียบไปพักใหญ่ก่อนตอบว่า
“ฝันเห็นคนใส่เสื้อขาด ๆ มายืนปลายเตียง บอกให้ซื้อเลขเดียวกันนั่นแหละ”
สองคนรีบไปเล่าความฝันให้ผู้ใหญ่ในหมู่บ้านฟัง
“ผู้ใหญ่บอกว่านั่นอาจเป็นผีโขมด หรือวิญญาณคนป่าที่เฝ้าของเก่า เพราะตรงที่พวกเรานั่งดัก มันเคยมีคนตายเมื่อสิบกว่าปีก่อน”
ไม่รู้บังเอิญหรือดวงหนุนกันแน่ แต่บอลกับคิมตัดสินใจซื้อหวยตามเลข “109” ที่ผีบอกไว้
“เราไม่ได้คาดหวังอะไรมากหรอกครับ คิดแค่ซื้อแก้บนให้เขา ไม่ถึงกับจริงจัง”
ผีโขมดให้โชค ผลหวยออก…และความจริงที่ขนหัวลุก
เย็นวันประกาศผล บอลนั่งดูทีวีกับแม่
“ตอนนั้นขนลุกจริง ๆ เหมือนเลขมันลอยออกมาให้เห็นเองก่อนจะประกาศ”
เมื่อผลออก “109” ตรงสามตัวท้ายของหวยงวดนั้น — บ้านทั้งบ้านเฮลั่น
“ผมเงียบเลย มือเย็นเฉียบ ทั้งดีใจทั้งกลัว เพราะมันเป๊ะทุกตัว เหมือนฝันเมื่อคืนยังอยู่ตรงหน้า”
ไอ้คิมก็โทรมาพร้อมเสียงหัวเราะปนร้องไห้ “มึงเห็นไหม ผีแม่งให้จริง ๆ”
ทั้งคู่เอาเงินส่วนหนึ่งไปทำบุญที่วัดกลางหมู่บ้าน จุดธูปบอกว่า “ถ้าเป็นผีโขมดจริง ก็ขอให้เขาไปสู่สุขคติ”
จากคนล่าสัตว์ กลายเป็นคนเลิกป่า
หลังเหตุการณ์นั้น บอลกับคิมไม่เคยกลับเข้าป่าอีกเลย
“ตอนนี้ผมรับจ้างส่งของในตลาดอำเภอ ขับรถส่งผักดีกว่า”
เขาพูดพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ “อยู่กับคนมีชีวิตยังดีกว่าอยู่กับวิญญาณในป่า”
แต่ทุกครั้งที่ใครพูดถึง “ผีโขมด” เขาจะยกมือไหว้ก่อนเล่าเสมอ
“ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ผมเชื่อว่าในป่ามีของ มีคนที่เรามองไม่เห็น และเขาไม่ได้ร้าย ถ้าเราไม่ลบหลู่”
ความเชื่อที่ยังอยู่ในใจ
หลังจากนั้นหลายคนในหมู่บ้านเอาเรื่องนี้ไปเล่าต่อ
บางคนเชื่อว่าผีโขมดคงให้โชคเพราะเขาทั้งคู่ทำดี ไม่ลบหลู่สถานที่
บางคนก็บอกว่า “มันแค่ฝันตรงกับหวยบังเอิญเท่านั้น”
แต่บอลบอกกับทีมข่าว SURIYA NEWS ว่า
“ไม่ว่าผีหรือบังเอิญ ผมขอบคุณสิ่งนั้นที่ทำให้ผมรู้ว่า การล่าเพื่อชีวิตกับการใช้ชีวิตมันคนละเรื่องกัน”
ตอนเล่าถึงตรงนี้ เขายิ้มแล้วพูดเบา ๆ
“ทุกครั้งที่ผมผ่านป่าชายแดน ผมยังยกมือไหว้อยู่เลยครับ เหมือนมีใครมองกลับมาจริง ๆ”
สรุปว่า
สองหนุ่มพรานมือใหม่ที่เข้าไปล่าสัตว์ เจอดวงไฟประหลาดในป่าชายแดนพม่า กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความเชื่อและโชคลาภ
แม้วันนี้ทั้งคู่จะเลิกเข้าป่าไปแล้ว แต่เรื่อง “ผีโขมดให้เลข” ยังคงเล่าต่อกันในหมู่บ้าน และกลายเป็นอีกหนึ่งตำนานที่ย้ำว่า —
“บางทีโชคดี…มันก็อาจมาจากสิ่งที่เรามองไม่เห็น”