ตำนานศาลพญานาคผู้ให้โชคแห่งบึงท้ายวัด

จุดเริ่มต้นของบึงที่ถูกขนานนามว่า “บึงพญานาค”

ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งของภาคอีสาน มีวัดเก่าแก่ที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า “วัดหนองโพธิ์” หลังวัดนั้นมีบึงน้ำกว้างใหญ่ทอดยาวจนสุดสายตา บึงนี้ไม่ใช่เพียงแหล่งน้ำหล่อเลี้ยงผู้คนเท่านั้น แต่เป็นสถานที่ที่มีเรื่องเล่าลึกลับสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน

ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่า บึงนี้เชื่อมต่อกับแม่น้ำใหญ่สายหนึ่งของจังหวัด และเป็นเส้นทางของเหล่าพญานาคที่ขึ้นลงระหว่างเมืองบาดาลกับโลกมนุษย์ ทุกครั้งที่มีวันพระใหญ่หรือวันเข้าพรรษา มักมีคนเห็นแสงสีเขียวระยิบระยับลอยอยู่เหนือน้ำ เหมือนเกล็ดงูมังกรสะท้อนแสงจันทร์ จนหลายคนเชื่อว่าเป็น “องค์พญานาคราช” แสดงอิทธิฤทธิ์ให้เห็น

ร่องรอยลึกลับที่ทำให้ทั้งหมู่บ้านต้องหยุดมอง

คืนหนึ่งหลังฝนตกหนัก บึงท้ายวัดเงียบสงัด มีเพียงเสียงจิ้งหรีดร้องก้องทุ่ง ขณะนั้นเอง “ลุงธวัช” ชาวบ้านที่เป็นคนหาปลาประจำบึง บอกว่าเขาเห็นรอยขนาดใหญ่พาดยาวจากริมบึงไปจนถึงป่าหลังวัด รอยนั้นลึกจนดินยุบเป็นแนวชัดเจน เหมือนร่างของสัตว์ยักษ์เลื้อยผ่าน

ตอนแรกไม่มีใครเชื่อ แต่เมื่อพระอาจารย์ในวัดออกมาดู ก็ถึงกับยกมือพนม บอกว่า “นี่ไม่ใช่รอยธรรมดา…เป็นรอยของพญานาคที่ขึ้นมาอาบน้ำในคืนพระจันทร์เต็มดวง” หลังจากวันนั้น ชาวบ้านเริ่มมากราบไหว้บริเวณที่พบรอย และตั้งชื่อบึงนี้ว่า “บึงพญานาค” อย่างเป็นทางการ

ศรัทธาที่รวมใจจนเกิดเป็น “ศาลพญานาค”

ต่อมา ผู้ใหญ่บ้านชื่อ “สมจิตร” เห็นว่าชาวบ้านเริ่มมีความศรัทธามากขึ้น เขาจึงหารือกับพระในวัดและชาวบ้านทั้งหมู่ ร่วมกันสร้างศาลเล็ก ๆ ขึ้นบริเวณที่รอยพญานาคปรากฏ เพื่อให้ผู้คนมากราบสักการะและบูชา

ศาลหลังนี้ทำจากไม้สักทั้งหลัง มีหัวพญานาคแกะสลักจากช่างในหมู่บ้าน ตรงกลางตั้งหิ้งบูชาพร้อมรูปหล่อพญานาคราชสีทอง เขียนป้ายไว้ว่า “ศาลพญานาคบึงท้ายวัด” ทุกเช้าจะมีคนมาจุดธูปถวายดอกไม้ บางวันมีคนนำไข่ต้มและน้ำแดงมาถวายตามความเชื่อ

สิ่งที่น่าประหลาดคือ หลังจากตั้งศาลได้ไม่นาน หลายคนที่มาขอพรต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เหมือนมีคนมากระซิบในใจ บอกเลขให้ตอนใกล้หลับ” และเมื่อพวกเขานำเลขนั้นไปซื้อหวย กลับถูกจริง ๆ ทั้งรางวัลเล็กและรางวัลใหญ่

ตำนานศาลพญานาค เหตุบังเอิญ หรือแรงศรัทธา

“ป้าสมพร” แม่ค้าขายลอตเตอรี่หน้าวัดเล่าว่า ตั้งแต่ศาลพญานาคตั้งขึ้น เธอขายดีมาก เพราะชาวบ้านแห่มาหาเลขจากศาลไม่ขาดสาย และที่น่าแปลคือ คนที่ถูกหวยบ่อย ๆ มักเป็นคนที่มาไหว้ด้วยความสงบ ไม่ใช่เพราะหวังรวยในพริบตา

“ฉันเคยเห็นกับตา คนที่มีจิตไม่ดี มาขอแล้วหัวเราะล้อเลียน อยู่ ๆ ก็ลื่นล้มตรงบันไดศาล ทั้งที่พื้นไม่ได้เปียกเลย” ป้าสมพรพูดพลางยกมือไหว้ศาล “แต่คนที่มาด้วยใจจริง ส่วนมากจะได้โชค มีอยู่รายหนึ่งถูกสามตัวตรงถึงสองงวดติด”

แม้เรื่องพวกนี้จะฟังดูเหลือเชื่อ แต่สำหรับชาวบ้านที่อยู่กับศาลนี้มาหลายปี เขาว่าความศรัทธามีพลังบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ มันเหมือนพญานาคราชรับรู้ความบริสุทธิ์ในใจของคนที่มากราบ

ความเชื่อที่อยู่คู่หมู่บ้านและเรื่องราวที่ยังไม่จบ

ปัจจุบัน “ศาลพญานาคบึงท้ายวัด” กลายเป็นจุดศักดิ์สิทธิ์ที่คนจากต่างอำเภอ ต่างจังหวัด เดินทางมากราบไหว้แทบทุกวันพระใหญ่ โดยเฉพาะในช่วงใกล้วันออกสลากกินแบ่ง จะเห็นผู้คนมาตั้งโต๊ะบูชา จุดธูป บ้างก็นำผ้าสีแดงไปผูกไว้รอบศาล บางคนยกมือขึ้นพนมหลับตา แล้วกระซิบขอเลขเบา ๆ

สิ่งหนึ่งที่หลายคนพูดตรงกัน คือ “บรรยากาศตรงนั้นเย็นแปลก ๆ” เหมือนมีอะไรบางอย่างเฝ้ามองอยู่ใต้บึงลึก ๆ ตอนยืนมองลงไปในน้ำ บางครั้งเห็นคลื่นน้ำวนเป็นรูปวงกลม ทั้งที่ไม่มีลมพัดเลย

ผมเองเคยไปยืนตรงนั้นตอนเย็นวันหนึ่ง แสงแดดสุดท้ายส่องลอดกิ่งไม้ลงบนผิวน้ำ เหมือนเกล็ดอะไรบางอย่างสะท้อนแสงเป็นสีทองจาง ๆ ตอนนั้นขนลุกวาบโดยไม่รู้สาเหตุ อาจเพราะกลัว หรืออาจเพราะศรัทธาก็ไม่แน่ใจ แต่สิ่งหนึ่งที่แน่คือ…มันทำให้รู้สึกว่า “พลังศักดิ์สิทธิ์มีอยู่จริง”

“ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือดวงหนุนกันแน่ แต่คนที่มีศรัทธาในศาลนี้ มักได้โชคอยู่เรื่อย ๆ”

ทุกวันนี้ ศาลพญานาคบึงท้ายวัด ยังคงเป็นที่พึ่งทางใจของชาวบ้านในละแวกนั้น บางคนมากราบเพื่อขอพรเรื่องงาน เรื่องสุขภาพ แต่ส่วนมากจะมาขอโชคลาภ และมีหลายรายที่พูดพร้อมรอยยิ้มว่า “ได้จริงนะ ไม่รู้ยังไง แต่เลขมันตรงทุกที”

บางทีคำอธิษฐานที่ออกจากใจคนจริง อาจเดินทางไปถึงโลกที่ลึกกว่าที่เรามองเห็น…

สรุปว่า

ศาลพญานาคบึงท้ายวัดในจังหวัดหนึ่งของภาคอีสาน ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ทางความเชื่อ แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งศรัทธาที่เชื่อมคนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บางคนอาจมองว่าเป็นเรื่องบังเอิญ แต่สำหรับผู้ศรัทธา พญานาคยังคงเฝ้ามองอยู่ใต้บึงนั้นเสมอ

หากใครอยากลองพิสูจน์โชคของตนเอง อย่าลืมตรวจผลลอตเตอรี่ของงวดล่าสุดได้ที่ ตรวจผลสลาก