พญานาคเขื่อนภูมิพล ตำนานสีนิลแห่งสายน้ำลึก
ตำนานจากรุ่นทวดสู่รุ่นเหลน
ว่ากันว่าก่อนจะมี “เขื่อนภูมิพล” ใหญ่โตโอ่อ่าดังเช่นทุกวันนี้ บริเวณหุบเขาแห่งนั้นเคยเป็นผืนป่าลึกที่มีลำน้ำสายหนึ่งไหลเชื่อมต่อไปยังแม่น้ำยม ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าต่อกันมาว่า ใต้สายน้ำนั้นมี “พญานาคสีนิล” สถิตอยู่ — เกล็ดของท่านดำขลับจนสะท้อนแสงราวเหล็กเงา ตัวยาวเกินสิบสองเมตร และไม่เคยมีใครได้เห็นเต็มองค์ มีเพียงรอยคลื่นยาวเป็นทางที่ผุดขึ้นกลางสายน้ำในยามรุ่งสางเท่านั้น
“ตอนก่อสร้างเขื่อนใหม่ ๆ ก็มีคนพูดกันทั้งนั้นว่ามีงูดำใหญ่โผล่ขึ้นมาไกล ๆ เหมือนมันดูพวกคนสร้างอยู่”
คำเล่าของลุงพาน ชาวบ้านสูงวัยในอำเภอสามเงา จังหวัดตาก ยังคงก้องในใจของคนฟัง เพราะเขาเชื่อว่าเขื่อนแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งก่อสร้างของมนุษย์ แต่ยังเป็น “ประตูน้ำ” ของโลกอีกภพหนึ่ง
ผู้ที่คิดร้าย มักอยู่ไม่รอด
หลายปีหลังเขื่อนเสร็จ ชาวบ้านบางรายเล่าตรงกันว่า มีคนต่างถิ่นเข้ามาลักลอบหาปลาในเขตอนุรักษ์กลางคืน พวกเขาใช้ไฟส่อง เหวี่ยงแหกันอยู่ดี ๆ อยู่ ๆ ก็มีคลื่นลูกใหญ่พุ่งเข้ามาซัดเรือจนคว่ำ ทั้งที่อากาศสงบ ไม่มีลมเลย
“เหมือนมีอะไรมันกระแทกใต้น้ำ” หนึ่งในผู้รอดชีวิตเล่าไว้กับคนในหมู่บ้าน “พอเรือจม พอเงยหน้าขึ้นอีกที ก็เห็นเหมือนเงาดำยาวลากผ่านใต้น้ำ ช้า ๆ แต่ใหญ่กว่าทุกอย่างที่เคยเห็นในชีวิต”
หลังจากนั้นไม่นาน ชาวบ้านเริ่มเอาขันน้ำ ดอกไม้ ธูปเทียน มาวางไว้ตรงท่าน้ำของเขื่อน มีการตั้งศาลเล็ก ๆ เพื่อบูชาพญานาคสีนิล เชื่อว่าท่านคุ้มครองผู้มีศีล มีธรรม และทำให้คนที่มาขอพรด้วยใจบริสุทธิ์ได้โชคลาภโดยไม่รู้ตัว
พญานาคเขื่อนภูมิพล พลังแห่งศรัทธาในสายน้ำ
ป้าช่อฟ้า แม่ค้าขายของใกล้จุดชมวิวเขื่อน เล่าว่า ก่อนหวยออกไม่กี่วันมักจะมีคนมาจุดธูป ขอพรจากศาลพญานาค “เขาว่าถ้าคนมาด้วยใจดี มักจะได้เลขในฝัน หรือไม่ก็ได้จากเสียงกระซิบในหัวตอนจุดธูป”
มีคนหนึ่งจากอำเภอบ้านตาก บอกว่าฝันเห็นพญานาคดำเลื้อยอยู่เหนือผิวน้ำ แสงจากพระจันทร์สะท้อนเกล็ดเป็นเลข 5-2-9 พอตื่นมาซื้อหวย ปรากฏว่าถูกสามตัวตรงพอดี หลังจากนั้นศาลพญานาคสีนิลก็มีคนมาขอพรไม่ขาดสาย
ปาฏิหาริย์ที่ไม่อาจอธิบาย
คืนหนึ่งในช่วงเข้าพรรษา พระอาจารย์จากวัดใกล้เขื่อนออกมานั่งสมาธิริมสันเขื่อน ท่านเล่าว่ารู้สึกเหมือนมีแรงสั่นสะเทือนเบา ๆ ใต้พื้น และได้ยินเสียงเหมือนงูใหญ่พ่นลมหายใจ “มันไม่ใช่เสียงลม มันเหมือนเสียงหายใจของสิ่งมีชีวิต” ท่านว่า “แต่ไม่รู้เพราะศรัทธา หรือเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยังอยู่จริง”
วันต่อมาชาวบ้านพบรอยเลื้อยขนาดใหญ่ยาวเกือบสามเมตรอยู่บนโคลนแห้งริมอ่างเก็บน้ำ รอยนั้นลึกและชัดเจนเหมือนมีแรงกดมหาศาลถูผ่าน ทุกคนต่างยกมือพนมและเอ่ยคำว่า “ท่านมาแล้ว”
พญานาคเขื่อนภูมิพล ตำนานที่ยังหายใจอยู่ใต้สายน้ำ
แม้เวลาจะผ่านมากว่าร้อยปี แต่คนเฒ่าคนแก่หลายคนยังยืนยันว่า พญานาคสีนิลยังคงเฝ้าดูแลเขื่อนภูมิพลอยู่เสมอ และเชื่อว่าท่านเป็น “ผู้รักษาสมดุลของน้ำ” หากผู้ใดทำสิ่งไม่ดี เช่น แอบขุด ทิ้งของเสีย หรือคิดทำลายธรรมชาติในบริเวณนั้น มักจะพบเจอเหตุไม่คาดฝัน บางรายเจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ
แต่ในทางกลับกัน คนที่มีใจดี ช่วยเหลือผู้อื่น หรือมีเจตนาดีต่อสิ่งแวดล้อม กลับพบโชคลาภเล็ก ๆ น้อย ๆ เข้ามาในชีวิตเสมอ เหมือนกับได้รับพรจากสิ่งที่มองไม่เห็น
“ไม่รู้ว่าเป็นพญานาคจริงหรือไม่ แต่ทุกครั้งที่มองลงไปในน้ำ มันรู้สึกเหมือนมีดวงตาสีดำจ้องมาจากข้างใต้เสมอ”
– คำพูดของชายชราผู้เคยเฝ้าเขื่อนกว่า 30 ปี
ศรัทธาไม่เคยจมหาย
ทุกวันนี้ ศาลพญานาคสีนิลเขื่อนภูมิพลยังมีคนไปกราบอยู่เรื่อย ๆ โดยเฉพาะช่วงวันพระใหญ่ จะเห็นคนจากต่างจังหวัดเดินทางมาจุดธูป จุดเทียน ขอน้ำมนต์กลับบ้าน และมีหลายคนพูดเหมือนกันว่า “หลังกลับจากเขื่อน ไม่ถึงอาทิตย์ ก็มีข่าวดีเข้ามา”
บางคนฝันเห็นพญานาค บางคนได้กลิ่นหอมแปลก ๆ ตอนขับรถผ่านสันเขื่อน บางคนเห็นแสงไฟลอยขึ้นจากผืนน้ำในคืนเดือนมืด มันอาจจะเป็นเพียงภาพลวงตา แต่ก็ไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า ความศรัทธาของผู้คนได้หล่อเลี้ยงตำนานนี้ให้คงอยู่จนถึงทุกวันนี้
สรุปว่า
ตำนานพญานาคสีนิลแห่งเขื่อนภูมิพล คือเรื่องเล่าที่สะท้อนความเชื่อของคนไทยต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในธรรมชาติ แม้ไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่า “ท่าน” มีอยู่จริงหรือไม่ แต่หลายคนที่มาด้วยใจบริสุทธิ์กลับพบโชคดีโดยไม่ทันตั้งตัว และบางคนยังพูดเสมอว่า “สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่เคยหายไปจากสายน้ำ เพียงแต่เราอาจลืมหันกลับไปมอง”
หากใครศรัทธาและอยากลองเสี่ยงโชค สามารถตรวจผลรางวัลล่าสุดได้ที่ ตรวจผลสลาก



