ชาวบ้านสระแก้วโอด ขายของไม่ได้ หลังชายแดนคุมเข้ม
SURIYA NEWS รายงานพิเศษ – บรรยากาศตามแนวชายแดนจังหวัดสระแก้ว หลังเหตุปะทะฝั่งกัมพูชาที่ผ่านมา ยังคงตึงเครียดต่อเนื่อง ฝั่งไทยเพิ่มกำลังคุมเข้มทุกด่าน จนกลายเป็นผลกระทบต่อวิถีชีวิตคนท้องถิ่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ตลาดโรงเกลือเงียบเหงา – นักท่องเที่ยวหาย
ตลาดโรงเกลือ ซึ่งเคยเป็นแหล่งค้าขายคึกคักที่มีทั้งนักท่องเที่ยวและพ่อค้าแม่ค้าจากหลายพื้นที่ ทุกวันนี้กลับเงียบเหงาอย่างเห็นได้ชัด หลายแผงค้าไม่มีลูกค้าเข้าเลยตลอดวัน
แม่ค้าขายเสื้อผ้ารายหนึ่งบ่นกับผู้สื่อข่าวว่า “เมื่อก่อนวันเสาร์–อาทิตย์ขายได้วันละพันสองพันบาท แต่ตอนนี้แทบไม่มีคนเข้ามาเดิน แค่ค่าน้ำค่าไฟยังเอาไม่อยู่”
พ่อค้ารองเท้าก็สะท้อนปัญหาไม่ต่างกัน “ของค้างเต็มร้าน ขายไม่ได้เลย เพราะนักท่องเที่ยวไม่กล้าเข้ามา เห็นว่าชายแดนตึงเครียด คนก็กลัว”
รถขนสินค้าน้อยลง – การค้าหยุดชะงัก
ปกติชายแดนสระแก้วถือเป็นประตูการค้าสำคัญ มีรถบรรทุกสินค้าผ่านเข้าออกทุกวัน แต่หลังการคุมเข้ม รถที่เคยวิ่งวันละหลายร้อยคันลดลงเกินครึ่ง หลายบริษัทขนส่งชะลอการเดินรถ เพราะกลัวปัญหาหน้างานและการตรวจที่เข้มงวดมากขึ้น
ผู้ประกอบการรายหนึ่งเล่าว่า “เมื่อก่อนส่งออกผักสดไปกัมพูชาแทบทุกวัน แต่ช่วงนี้ต้องหยุดหลายรอบ บางวันรถติดรอนานหลายชั่วโมงเพราะด่านตรวจละเอียดมาก ผักบางส่วนเสียหายขาดทุนทันที”

สระแก้วการค้าหยุดชะงัก ชาวบ้านเดือดร้อน รายได้หายวับ
ผลที่ตามมาคือชาวบ้านทั้งฝั่งตลาดและพื้นที่ใกล้เคียงสูญเสียรายได้ทันที บางครอบครัวที่เคยพึ่งพาการค้าข้ามแดน ต้องหันกลับไปทำงานรับจ้างรายวันแทน แต่รายได้ก็ไม่เพียงพอเท่าเดิม
ชาวบ้านวัยกลางคนในอำเภออรัญประเทศเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า “ทุกวันนี้เงินที่เคยได้จากการขายของหายไปเกือบหมด เด็ก ๆ ในบ้านต้องหยุดเรียนพิเศษ เพราะไม่มีเงินพอ”
นักวิเคราะห์เตือน – หากยืดเยื้อ เศรษฐกิจท้องถิ่นพัง
นักวิชาการด้านเศรษฐกิจชายแดนเตือนว่า หากการคุมเข้มดำเนินต่อไปนานกว่านี้ สระแก้วอาจเผชิญกับปัญหาซ้ำซ้อน ไม่เพียงแต่รายได้ชาวบ้านหดหาย แต่การค้าข้ามแดนที่เคยหมุนเงินมหาศาลอาจทรุดตัวลงอย่างรุนแรง
“ชายแดนสระแก้วไม่ใช่แค่ประตูไทย–กัมพูชา แต่เป็นจุดหมุนเวียนการค้าอาเซียน การหยุดชะงักครั้งนี้สะท้อนผลเสียที่ใหญ่กว่าที่คิด” นักวิเคราะห์ด้านโลจิสติกส์กล่าว
เสียงสะท้อนจากพื้นที่ – อยากให้กลับสู่ปกติ
เสียงของพ่อค้าแม่ค้าและชาวบ้านตรงกันว่า อยากเห็นสถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด หลายคนยอมรับว่าเข้าใจเหตุผลด้านความมั่นคง แต่ก็ไม่อยากให้มาตรการเข้มงวดทำลายวิถีชีวิตคนธรรมดา
แม่ค้าผักรายหนึ่งกล่าวอย่างสิ้นหวังว่า “เราไม่เกี่ยวกับการเมืองหรือความขัดแย้งอะไรเลย แค่อยากขายของให้เลี้ยงลูกเลี้ยงครอบครัวเท่านั้น”
สรุปโดย SURIYA NEWS
การคุมเข้มชายแดนไทย–กัมพูชาครั้งนี้ แม้จะสร้างความมั่นคงในระยะสั้น แต่ราคาที่ต้องจ่ายคือเศรษฐกิจชาวบ้านที่ซบเซาอย่างหนัก ตลาดโรงเกลือว่างเปล่า รถขนสินค้าน้อยลง และครอบครัวเล็ก ๆ ที่สูญเสียรายได้
คำถามคือ รัฐบาลจะหาทางออกอย่างไรเพื่อไม่ให้คนตัวเล็ก ๆ ต้องเป็นเหยื่อของความตึงเครียดที่พวกเขาไม่ได้ก่อ