ฝันหลอนยามค่ำ หรือวิญญาณเก่าทัก? สาววัย 19 เล่าประสบการณ์สุดขนหัวลุก

ยามเย็นของหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในอำเภอชนบท มีเสียงจักรยานเก่าดังกริ๊ก ๆ ตามถนนดินแดง “อรพินยา ใจคำดี” สาวนักศึกษาวัย 19 ปี กำลังปั่นจักรยานพร้อมปิ่นโตข้าวกับข้าวไปให้คุณตาและยายที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน
“หนูทำแบบนี้ทุกอาทิตย์ค่ะ ตากับยายแก่แล้ว ขี้เกียจให้ท่านหุงข้าวเอง” เธอพูดยิ้ม ๆ

แต่ทุกครั้งที่ต้องผ่าน “วัดเก่า” ซึ่งอยู่ก่อนถึงบ้านตายายเพียงไม่ถึง 300 เมตร เธอจะเร่งปั่นให้เร็วขึ้นเสมอ
“ตอนเย็นมันเงียบมากค่ะ มีแต่เสียงจักจั่น เสาไฟก็ห่าง ๆ เหมือนมันเย็นแบบผิดปกติ” เธอเล่า

ฝันเห็นผีหัวขาด ค่ำคืนที่เงียบเกินไป กับความฝันที่ชัดจนเหมือนจริง

หลังจากวันนั้นไม่นาน อรพินยาเล่าว่า เธอกลับถึงบ้านค่ำกว่าปกติ เพราะมัวช่วยยายเก็บของ
“ขากลับฟ้ามันเริ่มมืดแล้วค่ะ หนูเปิดไฟจักรยาน แล้วรีบปั่นกลับ แต่ตอนผ่านกำแพงวัด หนูรู้สึกว่ามีคนยืนอยู่ตรงมุมกำแพงข้างขวา”

ตอนแรกเธอคิดว่าเป็นชาวบ้าน แต่พอเหลือบมองกลับไม่มีใคร
“เหมือนเห็นแสงสะท้อนอะไรบางอย่างข้างในกำแพง มันไวมากจนไม่แน่ใจว่าเห็นจริงไหม”

คืนนั้นเธอหลับไปด้วยความรู้สึกแปลก ๆ แต่พอตกดึก เธอกลับฝันเห็นชายร่างสูงยืนอยู่ตรงมุมกำแพงวัด
“เขาใส่เสื้อขาวเปื้อนดิน แล้วไม่มีหัว… หนูจำได้ว่ามันยืนเฉย ๆ ไม่ขยับ แต่หนูได้ยินเสียงลมพัดผ่านหู เหมือนมีคนเดินวนรอบตัว”

เรื่องเล่าจากคนเฒ่าในหมู่บ้าน กับอดีตที่ไม่มีใครกล้าพูดถึง

รุ่งเช้าอรพินยาเล่าให้ยายฟัง ทั้งสองมองหน้ากันนิ่ง ยายถอนหายใจ “วัดนั้น…เมื่อก่อนเป็นที่ฝังศพนักรบเก่า เขาเสียหัวตอนรบกัน”

คุณตาซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ เสริมเบา ๆ “เมื่อก่อนกลางคืน ถ้าใครขับรถผ่านทางนั้น เขาว่าจะได้กลิ่นดินเปียกกับเสียงคนลากเท้า”
คำพูดนั้นทำให้เธอขนลุกซู่ “ตอนหนูผ่านก็ได้กลิ่นแบบนั้นจริง ๆ ค่ะ กลิ่นมันไม่เหมือนกลิ่นฝน แต่มันเหมือนกลิ่นดินที่เพิ่งขุดใหม่”

ความเชื่อหรือสิ่งลึกลับที่ยังอยู่ในความทรงจำ

หลังจากคืนที่ฝันนั้น อรพินยาไม่กล้าผ่านทางวัดเก่าอีก เธอเลือกใช้ทางอ้อม แม้จะไกลกว่าเดิมก็ตาม
“หนูไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ตั้งแต่คืนนั้น หนูจะพนมมือไหว้ทุกครั้งที่ผ่าน”

บางคืนเธอยังฝันซ้ำ ๆ ว่าขี่จักรยานผ่านมุมกำแพงเดิม แล้วเห็นเงาดำยืนอยู่ห่างออกไป
“มันไม่เคยเดินเข้ามาใกล้ แต่มันยืนนิ่งเหมือนรออะไรบางอย่าง” เธอพูดเสียงแผ่ว

วัดเก่าที่เงียบ แต่เรื่องราวไม่เคยจางหาย

คนในหมู่บ้านเล่าว่า บริเวณวัดเก่านั้น เคยมีงานบวชแต่ต้องยกเลิกกลางคัน เพราะพระรูปหนึ่งเห็นคนเดินผ่านโบสถ์โดยไม่มีหัว
“หลังจากนั้นก็ไม่มีใครบวชที่นั่นอีกเลย” ชาวบ้านสูงวัยคนหนึ่งเล่า

ทุกวันนี้ วัดเก่ายังอยู่เหมือนเดิม กำแพงอิฐแดงเริ่มผุ แต่ความเชื่อเรื่องวิญญาณเก่าที่ยังคงวนเวียนอยู่ในพื้นที่
ทำให้ใครต่อใครที่ผ่านตอนหัวค่ำ ต่างยกมือไหว้โดยไม่ต้องมีใครบอก

ฝันเห็นผีหัวขาด จากฝันหลอนสู่โชคจริง เลขในฝันที่กลายเป็นรางวัล

เมื่ออรพินยาเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ฟัง แม่หัวเราะแล้วพูดว่า
“ผีจะมาทักแบบนี้ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะลูก ฝันเห็นหัวขาดแบบนี้ แม่ว่ามันได้เลข 0 กับ 1 แน่ ๆ”

วันต่อมา แม่จึงตีเลขจากเรื่องราวของลูกสาวเป็นเลข 019–10–90 แล้วไปซื้อลอตเตอรี่ไว้ 3 ใบ
พอวันประกาศผล แม่อรพินยาโทรมาหาลูกสาวเสียงสั่น “ลูกเอ๊ย…ถูกเลขท้ายสองตัว!”

เธอหัวเราะทั้งน้ำตา “ไม่คิดว่าฝันจะกลายเป็นโชคจริง ๆ ค่ะ”
เงินรางวัลไม่มากมายแต่ทำให้ครอบครัวมีความสุข และที่สำคัญ ทุกครั้งที่ผ่านวัดเก่า อรพินยาจะยกมือไหว้เสมอ

ความเชื่อไม่จาง ศรัทธาไม่หาย

หลังจากเรื่องนั้น เธอเริ่มหมั่นทำบุญมากขึ้น
“หนูรู้สึกว่าทุกสิ่งมีเหตุผล แม้จะมองไม่เห็น แต่เราแค่ต้องเคารพ”

เสียงล้อจักรยานของอรพินยาดังกริ๊ก ๆ ไปตามทางเดิมในเย็นวันใหม่
ข้างทาง วัดเก่ายังอยู่ที่เดิม เหมือนรอให้คนผ่านมาทัก…
และใครจะรู้ เงาที่มุมกำแพงนั้น อาจยังคงมองอยู่เหมือนเดิม

หลังจากนี้ หลายคนในหมู่บ้านก็เริ่มหันไป ตรวจผลสลาก
ด้วยความหวังเล็ก ๆ ว่าฝันหนึ่งคืนของอรพินยา อาจส่งต่อโชคให้คนอื่นบ้างก็เป็นได้