นางดวงพรได้ยินเสียงเพลงจากหุบเขาท้ายหมู่บ้านชายแดนลาว ฝันเห็นชาวบ้านร้างยื่นเมล็ดข้าว ชาวบ้านแห่ตีเลขเด็ดคึกคัก

เสียงดนตรีลึกลับจากหุบเขา นางดวงพรฝันชาวบ้านร้างยื่นเมล็ดข้าว โยงสู่เลขเด็ดคึกคักในหมู่บ้านชายแดน
เสียงที่ดังจากภูเขาในคืนวันพระ

ในตำบลเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวติดแนวป่าชายแดนลาว ผู้คนยังใช้ชีวิตเรียบง่ายท่ามกลางภูเขาและลำห้วยเล็ก ๆ นางดวงพร แม่บ้านวัยสามสิบกว่า เล่าว่าเกือบทุกคืนก่อนวันพระ เธอจะได้ยินเสียงดนตรีคล้ายวงแคนผสมพิณดังแว่วออกมาจากหุบเขาท้ายหมู่บ้าน เสียงนั้นไม่เคยดังจนชัด แต่ก็ไม่เคยเงียบไปเสียทีเดียว

“มันคล้ายเสียงงานบุญ เสียงหมอลำ เสียงกลองตึ๊งหน่อง ๆ อยู่ลึก ๆ ข้างในป่า” ดวงพรเล่าพร้อมทำท่าขนลุก “บางครั้งเหมือนมีคนร้องเพลงรับกันเป็นหมู่ เสียงหัวเราะดังแทรกมาเบา ๆ ด้วย”

ลูกสาวร้องไห้ทุกครั้งที่เสียงดัง

สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเล่าธรรมดา คือทุกครั้งที่มีเสียงดังขึ้น ลูกสาวคนแรกของดวงพรซึ่งยังเป็นทารกก็มักจะร้องไห้สะอึกสะอื้นแบบควบคุมไม่ได้ “ทั้งที่ปกติเธอนอนหลับสบาย แต่พอถึงคืนก่อนวันพระ เหมือนจะมีอะไรปลุกให้ตื่นแล้วก็ร้องจ้าไม่หยุด” เธอเล่าพร้อมสายตากังวล

หลายครอบครัวในหมู่บ้านได้ยินเสียงเหมือนกัน แต่ไม่มีใครกล้ายืนยันว่ามันมาจากไหน บางคนบอกว่าเป็นเสียงลม บางคนว่าคนเล่นเครื่องดนตรีในหมู่บ้านใกล้เคียง แต่ผู้เฒ่าผู้แก่กลับพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “นั่นคือเสียงหมู่บ้านเก่าที่ร้างไปแล้ว”

ถูกหวยเพราะเมล็ดข้าว ตำนานหมู่บ้านที่หายไป

ผู้เฒ่าชื่อปู่แกละ เล่าว่า บริเวณหุบเขาท้ายหมู่บ้านเมื่อร้อยปีก่อนเคยมีชุมชนตั้งรกราก แต่ต่อมาผู้คนเจ็บป่วยและอพยพออกไปหมด เหลือเพียงซากบ้านไม้และเสาศาลาเก่า ๆ ที่ปกคลุมด้วยเถาวัลย์ “ทุกวันพระใหญ่ จะมีเสียงเพลงดังขึ้น เหมือนชาวบ้านเก่ากำลังทำบุญเลี้ยงเพลพระ” ปู่แกละพูดเสียงเบา

คนรุ่นใหม่ฟังแล้วบางทีก็หัวเราะ แต่พอหลายปีผ่านไป ยังมีคนยืนยันว่าได้ยินเสียงจริง ยิ่งในคืนหมอกลงจัด เสียงนั้นจะยิ่งชัดราวกับอยู่ไม่ไกล

ถูกหวยเพราะเมล็ดข้าว ความฝันในคืนนั้น

คืนหนึ่งดวงพรเล่าว่า หลังจากเสียงดนตรีดังแว่วมาตามลม เธอก็เผลอหลับไป และฝันแปลกที่สุดในชีวิต ในฝันเธอเห็นชาวบ้านนับสิบแต่งตัวโบราณ ก้าวออกมาจากเงาต้นไม้ บางคนยิ้ม บางคนพยักหน้าเหมือนรู้จักกันอยู่แล้ว

“เขามาทักเหมือนญาติที่ห่างหายไปนาน แล้วมีหญิงชราคนหนึ่งเดินเข้ามาหาฉัน ยื่นของบางอย่างใส่มือ เป็นเมล็ดข้าวเม็ดเล็ก ๆ แต่ส่องแสงเหมือนทอง” ดวงพรเล่าด้วยน้ำเสียงจริงจัง

เธอตกใจตื่นกลางดึก หันไปเห็นลูกสาวยังสะอื้นเบา ๆ จนต้องกอดกล่อมอยู่นาน

การตีความของผู้เฒ่า

พอรุ่งเช้า ดวงพรนำความฝันไปเล่าให้ปู่แกละและผู้เฒ่าคนอื่นฟัง ทุกคนพยักหน้าช้า ๆ ก่อนบอกว่า “เมล็ดข้าวในฝันคือสัญลักษณ์ของโชคลาภและความอุดมสมบูรณ์ อาจหมายถึงการได้ปลูกใหม่ หรือได้เริ่มต้นใหม่”

บางคนบอกว่าเสียงดนตรีจากหมู่บ้านร้างเป็นการสื่อสารจากคนเก่าที่อยากบอกข่าวดีให้ชาวบ้านรุ่นใหม่ “เมล็ดข้าวคือเลข 9 เพราะเป็นเลขเจริญงอกงาม”

เลขที่ถูกพูดถึงในตลาด

เมื่อเรื่องนี้แพร่ไปทั่วหมู่บ้าน เช้าวันถัดมาที่ตลาดสด ผู้คนต่างพากันตีเลขกันไปต่าง ๆ นานา

วันพระที่มักได้ยินเสียง → 15 / 51

ลูกสาวคนแรกที่ร้องไห้แทบทุกครั้ง → 01 / 10

หมู่บ้านเก่าแก่ร้างไปแล้ว → 29 / 92

เมล็ดข้าวที่ได้รับในฝัน → 09 / 90

ชาวบ้านหลายคนในฝัน → เลขหมู่ 3, 5, 7

รวมกันกลายเป็นชุดเลขที่คนแห่ซื้อจนแผงหวยในอำเภอใกล้เคียงขายดีเป็นพิเศษ

เสียงจากชาวบ้านร้านตลาด

ป้าไหม แม่ค้าขายส้มตำบอกว่า “ฉันเอาเลข 15 ไว้ เพราะได้ยินเสียงทุกคืนวันพระจริง ๆ”

ลุงศรี คนกรีดยาง เลือกเลข 29 เพราะเชื่อเรื่องหมู่บ้านเก่า “คนเฒ่าพูดอะไรก็ไม่เคยผิด”

เด็กวัยรุ่นที่ฟังเรื่องฝันตีเลข 09 “เมล็ดข้าวมันตรงเกินไป”

บรรยากาศคึกคัก

ตลาดเล็ก ๆ ที่เคยขายของปกติกลับเต็มไปด้วยเสียงถามหาเลขเดียวกัน แผงหวยที่ปกติขายช้ากลับหมดเกลี้ยงตั้งแต่ก่อนเที่ยง หลายคนยอมขับรถไปหาซื้อต่างอำเภอเพราะอยากได้ชุดเลขนี้

ความหมายที่ซ่อนอยู่

แม้หลายคนหวังเรื่องโชค แต่สำหรับดวงพร เมล็ดข้าวในฝันไม่ได้หมายถึงตัวเลขอย่างเดียว เธอบอกว่า “ฉันรู้สึกว่ามันคือกำลังใจให้เลี้ยงลูกให้ดี ถึงชีวิตจะลำบาก แต่เมล็ดข้าวก็เติบโตได้ถ้าเราดูแล” คำพูดนี้ทำให้คนที่นั่งฟังเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย

สรุปเลขดังจากเรื่องราวนี้

สองตัวเด่น: 15, 51, 01, 10, 29, 92, 09, 90

สามตัวที่ถูกหยิบไปพูด: 915, 157, 290, 509

ค่ำวันนั้นที่ศาลาวัด ชาวบ้านรวมตัวจุดธูปเทียน มีคนพูดขึ้นว่า “จะจริงไม่จริงก็ไม่รู้ แต่เลขพวกนี้ทำให้เรามีเรื่องคุย มีความหวังไปด้วยกัน” เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นท่ามกลางแสงไฟตะเกียง บรรยากาศช่างอบอุ่นราวกับหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ยังมีเสียงดนตรีแว่วอยู่จริง