หินประหลาดกลางป่าอุตรดิตถ์ที่หลายคนเชื่อว่าเป็นพญานาครอให้พบ

ช่วงค่ำของวันหนึ่งที่อากาศเริ่มเย็นลงเล็กน้อย ชาวบ้านในพื้นที่แถบจังหวัดอุตรดิตถ์ต่างออกมาพูดถึงเรื่องเดียวกันเกือบทั้งหมู่บ้าน หลังมีคนเก็บของป่าแล้วเจอ “ก้อนหินรูปร่างแปลก” วางอยู่ใต้โพรงไม้ลึกเข้าไปจากทางเดินปกติหลายร้อยเมตร เขาเล่าว่าตอนแรกตั้งใจไปเก็บเห็ดตามฤดูกาลเหมือนทุกปี แต่พอเดินเข้าไปลึกกว่าที่เคยก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างสะกิดสายตาให้หันไปมอง

“ตอนนั้นไม่รู้สิ มันเหมือนมีอะไรดึงสายตาไปทางซ้าย พอเข้าไปใกล้ถึงเห็นว่ามีก้อนหินก้อนหนึ่งสีอมเขียว ๆ เหมือนลายเกล็ด” ชาวบ้านคนแรกที่เจอเล่าแบบออกจะลังเล เหมือนไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องธรรมดาหรือไม่

เขายิ่งท้าวความต่อว่า ตอนก้มลงดูใกล้ ๆ ถึงเห็นว่าหินก้อนนั้นมีส่วนที่นูนขึ้นคล้ายหัวงู บางมุมเหมือนมีลายคล้ายหงอนเล็ก ๆ พาดอยู่ด้านบน และที่แปลกไปกว่านั้นคือพื้นดินรอบ ๆ ไม่ค่อยมีใบไม้ทับ ทั้งที่เป็นพื้นที่ในป่าที่ปกติแล้วควรเกลื่อนกลาดไปหมด

หินพญานาคให้โชค ชาวบ้านเริ่มแห่เข้ามาดู พร้อมเสียงล่ำลือว่ามีโชคกันหลายคน

หลังจากเรื่องแพร่ไปในกลุ่มผู้สูงอายุ ช่วงสายของวันต่อมา ชาวบ้านหลายสิบคนเริ่มทยอยเข้าไปดูด้วยตัวเอง หลายคนบอกว่าตอนเดินเข้าไปใกล้เหมือนมีลมเย็นวูบหนึ่งไหลผ่าน ทั้งที่ในป่าบริเวณนั้นอากาศค่อนข้างนิ่งมาตลอด

“เราไม่แน่ใจเหมือนกัน มันอาจเป็นเพราะเราคิดไปเอง แต่เหมือนมีอะไรบางอย่างคอยมองอยู่ลึก ๆ” ป้าคนหนึ่งเล่าแบบจริงบ้าง–ไม่แน่ใจบ้าง

ไม่นานก็มีคนจุดธูปไหว้แบบตามธรรมเนียมพื้นบ้าน เผื่อจะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เฝ้าป่าอยู่ และเพราะวันนั้นเป็นช่วงใกล้วันสลากพอดี หลายคนเลยลองเสี่ยงขอ “เลขเด็ด” ติดไม้ติดมือกลับบ้าน

ผลคือ…
หลังวันประกาศรางวัล มีชาวบ้านเกือบสิบรายบอกว่าได้เลขใกล้เคียงกับที่เห็นบนธูปบ้าง บางคนก็ได้จากความฝันคืนก่อนหน้า บางคนบอกว่าเห็นเลขลอยขึ้นมาจากลายหินแบบประหลาด ๆ ทั้งหมดนี้ทำให้พื้นที่ป่าตรงจุดดังกล่าวเริ่มคึกคักกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด

หินพญานาคให้โชค จากเรื่องเล่ากลายเป็นความเชื่อ จนร่วมกันสร้างศาลประจำจุด

พอมีคนได้โชคกันมากขึ้น ชาวบ้านก็เริ่มตกลงกันว่าน่าจะจัดพื้นที่ให้เป็นที่สักการะอย่างเหมาะสม เพราะกลัวว่าหากปล่อยทิ้งไว้เฉย ๆ จะทำให้คนเหยียบย่ำเข้าไปผิดที่ผิดทาง หรืออาจเป็นการไม่เคารพในสิ่งที่เขาเชื่อว่าเป็น “ผู้ดูแลป่า”

จึงเกิดการรวมตัวของชาวบ้านหลายหลังคาเรือนนำวัสดุไปทำศาลเล็ก ๆ บริเวณที่พบหินนั้น โดยทำเป็นหลังคาไม้ไผ่ขนาดพอดี ไม่ใหญ่เกินไป แต่แข็งแรงพอให้ตั้งเครื่องไหว้และป้องกันฝนได้

มีทั้งน้ำดื่ม ผลไม้ และดอกไม้ที่ถูกนำไปถวายทุกวัน ส่วนมากเป็นของที่หาได้ในหมู่บ้าน ไม่ใช่ของแพงหรือหรูหรา แต่ตั้งไว้ด้วยความตั้งใจแบบคนบ้าน ๆ ที่เคารพสิ่งที่มองไม่เห็นแต่รู้สึกถึงมันได้

“เราไม่ได้คิดว่าหินก้อนนี้คือพญานาคแบบตัวเป็น ๆ นะ แต่เหมือนมันมีพลังบางอย่างอยู่จริง ๆ เพราะหลายคนได้โชคกันทั้งที่ไม่ได้นัดหมายอะไรเลย” ลุงผู้ดูแลศาลเล่าด้วยน้ำเสียงสุภาพ

คนที่ได้โชคเล่าเหมือนกันว่า ‘ไม่รู้เพราะบังเอิญหรือเพราะเชื่อ’ แต่ก็กลับไปไหว้ทุกครั้ง

คนที่เคยถูกเลขจากจุดนี้ ส่วนใหญ่พูดคล้ายกันว่ารู้สึก “สบายใจ” เวลาไปไหว้ ไม่ใช่แค่เรื่องตัวเลขอย่างเดียว แต่เป็นเพราะบรรยากาศในป่าตรงนั้นให้ความรู้สึกเงียบสงบกว่าหลายที่ เหมือนธรรมชาติมีอะไรบางอย่างที่ยากอธิบาย

บางคนเล่าว่า ตอนที่ยืนไหว้รู้สึกเหมือนตัวเลขลอยผ่านในหัวแบบไม่ทันตั้งตัว เหมือนฝันทั้งที่ยังลืมตาอยู่
บางคนก็เล่าตรง ๆ ว่า
“ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือดวงมันหนุน แต่ได้เลขจากที่นี่ทีไรก็มีโชคเล็ก ๆ น้อย ๆ กลับไปทุกที”

จากเหตุการณ์เหล่านี้เองทำให้ศาลประจำจุดถูกดูแลอย่างสม่ำเสมอ มีคนผลัดเวรกันตรวจ และทำความสะอาดพื้นรอบหินเพื่อไม่ให้รกจนเกินไป บางวันช่วงเย็นจะมีคนมาจุดธูปเกือบสิบราย ทั้งคนในหมู่บ้านและคนจากอำเภอใกล้เคียง

สถานที่เล็ก ๆ ในป่ากลายเป็นศูนย์รวมความหวังแบบเรียบง่ายของชุมชน

แม้พื้นที่ป่านี้จะไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวหลักหรือศาลเจ้าชื่อดัง แต่สำหรับชาวบ้านในพื้นที่แล้ว มันเหมือนเป็นอีกหนึ่ง “มุมเงียบ ๆ” ที่ทำให้รู้สึกอุ่นใจเวลาเข้ามายืนใกล้หินก้อนนั้น

การมีศาล การมีของไหว้ การมีคนดูแลอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายคนมองว่ามันเป็นพื้นที่รวมใจมากกว่าจะเป็นเพียงที่ขอเลข

บางคนบอกว่าเวลาจุดธูปไหว้ เหมือนนึกถึงบรรพบุรุษหรือผู้เฝ้าป่าที่สมัยก่อนผู้เฒ่าเคยเล่าให้ฟัง บางคนก็บอกว่าเหมือนเป็นพื้นที่ที่ทำให้ใจสงบก่อนเริ่มต้นงานประจำวัน

ไม่ว่าความเชื่อจะตรงกันแค่ไหน แต่สิ่งที่ชาวบ้านเห็นร่วมกันคือ “มันทำให้คนมีความหวัง” และนั่นก็เพียงพอให้สถานที่แห่งนี้ยังคงถูกดูแลอย่างเงียบ ๆ ต่อไป

และสำหรับใครที่อยากเช็กผลสลากล่าสุดหรือย้อนหลัง สามารถเข้าไปดูได้ที่
/ตรวจผลสลาก/