ซากคล้ายงูให้โชค

ซากคล้ายงูยาวราวสองเมตรพบตื้นริมโขง ชาวบ้านยังไม่กล้าขยับ

ช่วงเย็นวันที่ลมริมโขงพัดเอื่อย ๆ ผมเดินไปตามทางเชิงตลิ่งด้านอำเภอศรีสงคราม นครพนม เหมือนทุกวัน น้ำลดจนเห็นทรายยาวเป็นแนว เดินไปสักระยะผมก็เห็นอะไรบางอย่างวางตึงอยู่กับพื้น ส่วนปลายเหมือนเกล็ดแห้ง ๆ แตกละเอียด สีน้ำตาลอมเทา ผมไม่แน่ใจในตอนแรก เลยนั่งลงเพ่งมองให้ชัด

มันเหมือนซากงู แต่ความยาวน่าจะประมาณสองเมตรกว่า หน้าตัดเป็นทรงริ้ว ยาวเหยียดไม่ขาดช่วง ผมยืนเงียบอยู่พักหนึ่ง บรรยากาศโดยรอบไม่ต่างอะไรจากเย็นวันอื่น ๆ เพียงแต่สิ่งนี้มันเหมือนกำลังบอกบางอย่างทอดตัวอยู่ตรงหน้า ผิวหนังดูกรอบจนแทบขยับไม่ได้ คงผ่านแดดมาหลายชั่วโมงจนความชื้นหายไป แต่ที่พิเศษคือรูปร่างมันยังคงสมบูรณ์ ไม่บิดหรือขาดเป็นท่อนอย่างซากงูทั่วไป

เสียงน้ำไหลค่อย ๆ คลออยู่ข้างหู มันไม่ดังนัก แต่พอมองซากยาวนั้นนานขึ้น จู่ ๆ ความคิดในหัวผมก็แปลกไปเล็กน้อย เหมือนมันมีเรื่องราวที่อยากให้คนฟัง ทั้งที่จริงอาจเป็นเพียงสัตว์ตายหนึ่งตัว แต่ความยาวนั้นมันทำให้ผมลังเล

ซากคล้ายงูยาวราวสองเมตรพบตื้นริมโขง

ซากคล้ายงูให้โชค ลุงผอง วัยราวหกสิบ เล่าว่าเห็นตอนเช้าเหมือนยังชื้นอยู่

เช้าวันถัดมา ผมไปคุยกับลุงผอง ตามที่ชาวบ้านแนะนำ แกเป็นคนที่เดินชายหาดตีสี่เป็นประจำ ถือไฟฉายเก่า ๆ ติดมือ ลุงผองยิ้มบาง ๆ เมื่อผมเอ่ยถามถึงซากนั้น แกนิ่งไปสักอึดใจ ก่อนจะพูดช้า ๆ เหมือนทบทวนความทรงจำ

แกเล่าว่าตอนเห็นครั้งแรก ผิวของมันยังเหมือนมีน้ำติดอยู่บางส่วน “มันเหมือนเพิ่งมาเมื่อคืน” แกว่าตามเสียงช้าแต่ชัด “ตอนตีห้าฟ้ายังไม่เปิดดี ฉันฉายไฟไปเห็นเงายาว ๆ แล้วก็คิดในใจ ไม่น่าใช่งูบ้านหรอก เล็กเกินไปจะเป็นอนาคอนดา แต่จะให้คือปลาก็ไม่ใช่ มันเรียวแบบงูนี่แหละ”

ผมถามแกว่าตอนที่เห็นมีคนอื่นไหม ลุงผองส่ายหัวเบา ๆ แล้วว่า “ไม่มีหรอก ตอนนั้นไม่ค่อยมีใครลงมาตรงนี้” แกเดินไปดูมันอีกทีตอนแดดเริ่มแรงขึ้น มันแห้งเกรียมกว่าเดิม แต่ยังคงรูปร่างอย่างน่าประหลาด แกไม่ได้ลองขยับมัน กลัวว่าถ้าเป็นสัตว์มีพิษ แม้ตายแล้วอาจมีเศษพิษค้างอยู่

สีหน้าลุงผองตั้งมั่น เหมือนอยากพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่พูดออกมาทั้งหมด

ป้าแสงจันทร์ยืนยันว่ามีคนเห็นจริง หลายคนเดินเลี่ยงไม่กล้าจับ

จากนั้นผมเดินอ้อมไปที่ร้านขายของเล็ก ๆ ริมโขง ป้ายัดหีบมะขามเปียกอยู่หลังร้าน หล่อนชื่อแสงจันทร์ ท่าทีเป็นกันเอง ผมถามเพียงสั้น ๆ ว่า “เรื่องซากงูเมื่อวานจริงไหม” ป้าแสงจันทร์เดินออกมาข้างร้าน มองไปทางหาดด้วยสายตาที่เหมือนคิดตาม เหมือนจำภาพนั้นได้แม่นยำ

“จริงสิจ๊ะ มีเด็กนักเรียนสองคนเดินมาดูด้วย พอเห็นก็ตกใจแล้ววิ่งกันกลับขึ้นไปบนถนน” ป้าแสงจันทร์ว่าช้า ๆ เหมือนเรื่องมันยังอยู่ในหัว “มันไม่ใช่งูเล็กนะ ข้าดูแล้วมันยาวกว่าท้องแขนสองคนเรียงกันอีก ถ้าวัดน่าจะสองเมตรกว่า”

เธอบอกว่าตลอดสองวันที่ผ่านมาไม่มีใครแตะต้องซากนั้นเลย บางคนแค่เดินลงมาดู แล้วหันกลับแบบไม่กล้าแตะ เหมือนความยาวมันทำให้ไม่แน่ใจว่ามันใช่สัตว์แบบที่คิดหรือไม่ บางครั้งน้ำก็ไหลลงซัดปลายหางเบา ๆ ทำให้ทรายข้างใต้แตกตัวเล็กน้อยเหมือนมันยังหายใจ

ผมนั่งมองสายตาป้าแสงจันทร์ที่ค่อย ๆ เงียบลง เธอเล่าว่าตอนเด็ก ๆ เคยได้ยินว่าซากอะไรที่ขึ้นมาจากโขง บางทีมันไม่ใช่แค่ซาก บางทีมันเป็นสัญญาณที่มีความหมายแฝงสำหรับคนในพื้นที่ เธอไม่ได้พูดว่ามันคืออะไร และผมเองก็ไม่ได้ถามต่อ

คลิกรับโชคเพิ่ม

ซากคล้ายงูให้โชค หมอธรรมบุญเพ็งเล่าเรื่องรุ่นอาจารย์เก่า แต่ไม่ยืนยันว่าเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้

ช่วงเย็นผมไปพบหมอธรรมบุญเพ็ง ที่กระท่อมใกล้ป่าละเมาะริมโขง แกท่าทางสงบ เสื้อผ้าดูเรียบอย่างคนเคร่งสมาธิ ผมเอ่ยถามถึงความหมายของการพบซากสัตว์ยาวเช่นนี้ แกนิ่งฟังอย่างมีสติ ก่อนจะกล่าวเบา ๆ

“ของที่มากับสายน้ำ ไม่ใช่ทุกอย่างที่เราควรไปแตะ” น้ำเสียงท่านเรียบ แต่ชวนคิดอย่างประหลาด “รุ่นอาจารย์ข้าเคยบอกว่า เมื่อมีสิ่งยาวทาบทราย ไม่ว่าจะตายหรือไม่ตาย มันอาจเป็นเงาของสิ่งที่เคยมีอยู่ในน้ำลึก ไม่ใช่งูธรรมดา และไม่ใช่ปลาธรรมดา”

ผมถามว่าเป็นตัวอะไรหรือ ท่านนิ่งนานเหมือนชั่งใจ ก่อนตอบ “อาจจะเป็นเพียงซากงูที่โตในทางของมัน อาจเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องที่เราไม่อาจมองเห็นได้ทั้งหมด คนบางคนเห็นเพียงซาก แต่บางคนเห็นการเตือน”

คำตอบนั้นไม่มีบทสรุป ท่านไม่ได้บอกว่ามันคืออะไร และไม่ได้ปฏิเสธ ผมนั่งอยู่กับความคิดตัวเอง หลายประโยคเหมือนเปิดความเชื่อเดิม ๆ กลับขึ้นมา แต่หลายสิ่งก็ยังฟังดูเป็นเรื่องน่าสงสัย ท่านพูดทีละน้อย คล้ายให้เราเป็นคนเรียงเรื่องเอง

หมอธรรมบุญเพ็งเล่าเรื่องรุ่นอาจารย์เก่า

สรุปว่า — ไม่มีใครรู้ว่าซากยาวนั้นคืออะไร แต่เหตุการณ์นี้ยังค้างในใจชาวบ้าน

จนถึงตอนนี้ ไม่มีใครแตะหรือขยับซากคล้ายงูยาว 2.10 เมตรนั้น ชาวบ้านบางส่วนเดินลงไปดูในช่วงเช้า แล้วก็กลับไปเงียบ ๆ คนที่เห็นเองก็พูดไม่ค่อยเต็มเสียง คล้ายไม่อยากให้ความเชื่อมันลุกลามเกินไป หมอธรรมบุญเพ็งเล่าเรื่องรุ่นอาจารย์เพียงพอให้ฉุกคิด แต่ไม่ชี้ชัดว่าเกี่ยวข้องกับสิ่งที่พบ

ภาพนั้นยังอยู่ในหัวผม — ตัวเรียวแห้งวางเป็นแนวตรง ยาวกว่าที่จะคิดว่าเป็นงูทั่วไป สายลมพัดผ่านทรายช้า ๆ เหมือนท่าน้ำยังจำได้ว่ามีใครมานอนแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น ผมไม่รู้ว่ามันเป็นลาง หรือเป็นเรื่องที่ผ่านไปอีกเรื่องหนึ่ง

บางทีธรรมชาติอาจแค่เล่นตาให้หัวคนคิด
หรือบางทีอาจมีความหมายที่ยังไม่ถึงเวลาจะเข้าใจ

ใครที่เดินผ่านริมโขงคืนนี้ อาจลองมองช้า ๆ เหมือนที่ผมทำ แล้วจะรู้ว่าทุกอย่างไม่ได้จบลงที่คำอธิบายตรง ๆ เสมอไป

และบางครั้ง — ความเงียบของสายน้ำ ก็ให้คำตอบมากกว่าคำพูดของใครทั้งหมด.

By Ly Pop

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ทันข่าวใหม่ ใส่ใจรายละเอียด ไม่พลาดทุกชั่วโมง